ผลบอล : ชูร์เล่กล่าวโต้คนขี้อิจฉาตาร้อนกล่าวโจมตีเชลซีอุด

ฟุตบอล : ชูร์เล่ โต้ คนที่จวก เชลซี ว่าเป็นจอมอุด และเล่นเกมรุกไม่ได้ ก็แค่พวกขี้อิจฉา ทนเห็นผู้อื่นเจอะเจอความได้ผลไม่ได้ มั่นใจการชนะชนะยังสำคัญที่สุดในทุกแมตช์

อังเดร ชูร์เล่ มิดฟิลด์ของ เชลซี กรุ๊ปดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตอบโต้เสียงวิจารณ์ที่ว่าทุกคนในทีมเล่นบอลเกมรุกไม่เป็น หลังโจมตีไปเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 ด้วยการเน้นรับสารภาพเหนียวแน่น เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยความศรัทธาว่าคนเหล่านั้นก็แค่อิจฉาเนื้อความสำเร็จของ โชเซ่ มูรินโญ่ เจ้านายจอมแท็คติก และยังเห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการแข่งขันซึ่งก็คือชัยชนะเท่านั้น

กองกลางชาวเยอรมันให้ความเห็นถึงชัยชนะครั้งสำคัญว่า ถ้ามีคนมองเราแล้วพูดว่า เชลซี เล่นฟุตบอลไม่เป็น ทั้งที่เราเป็นก้ำชนะ มันก็คงเป็นเพราะพวกเขาขี้อิจฉา เพราะเรารู้สึกเมาลีเยี่ยมมาก เป็นเกมที่สมบูรณ์แบบ เราทำได้ตามที่เราต้องการเป๊ะ เราทำในอันที่เราได้รับคำสั่งมา

ถ้าเราอยากชนะก็ต้องเล่นเกมรับ ให้เหนียวแน่น และจากนั้นก็หากาลยิงให้ได้บ้าง นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ชัยชนะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คุณจะเล่นฟุตบอลที่สวยงามบริบูรณ์แบบแล้วแพ้ก็ได้ แต่นั่นคงไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ ใครๆ ก็อยากชนะทั้งนั้น ชูร์เล่ เพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี แข้งวัย 24 ปียังไม่เปิดเผยว่าจะใช้แท็คติกต้นฉบับไหนในการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แอตเลติโก้ มาดริด ในวันที่ 30 เม.ย. นี้ โดยกล่าวว่า เราสามารถเล่นได้ทั้ง 2 แบบ เราเองก็เคยแสดงให้เห็นแล้ว เวลาที่เราต้องการเราก็เล่นเกมรุกได้ เราจะกระทำการเกมแล้วยิงประตูก็ได้

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

http://welovefootballclub.blogspot.com/

วิเคราะห์บอล : คำใดคำนั้น! คู่ควงหงส์ใจกล้าแก้ผ้าแสดงความสามารถหลังทีมรักแพ้เชลซี 0-2

ฟุตบอล : ฮือฮา! หนุ่มไทยสาวกลิเวอร์พูลลงทุนแก้วัตถาภรณ์ถ่ายรูปหลังทีมบอลรักพ่ายแพ้ต่อเชลซี 0-2 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ลูกชายฉกรรจ์คำไหนคำนั้น สาวกหงส์แดงนาม \\\'โลกต้องตะลึง\\\' ได้โพสต์ข้อข้อความบนเว็บไซต์พันทิปในหัวข้อ ทุกคนเป็นพยาน คืนนี้ หงส์ไม่ชนะ โดยเนื้อหามีอยู่ว่า หงส์เสมอไม่เอา แพ้ไม่เอา ชนะเท่านั้น ถ้าผลออก หงส์ เสมอ หรือแพ้ ผมจะซ่อมผ้ากลางพันทิป เขียนสกอร์ บนอกตัวโตๆ เซ็นเซอร์แค่ พยาช้างเท่านั้น! ซึ่งเป็นหัวเรื่องความที่แล้วเกมลิเวอร์พูลแพ้เชลซี 0-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
หลังพลัดพรากที่ทีมลิเวอร์พูลพ่ายแพ้เชลซี 0-2 หนุ่มนาม \\\'โลกต้องตะลึง\\\' ก็ได้ทำติดสอยห้อยตามคำสบถสาบานที่ให้ไว้โดยแก้ผ้าถ่ายรูป และประพันธ์สกอร์บนกระทรวงอุตสาหกรรมของตัวเอง มีเพียงผ้าเช็ดตัวปิดของรักษาไว้เท่านั้น และค้างไว้ถึง 12 ชั่วโมง ในเวลาต่อมาก็ได้ลบภาพดังกล่าวออกไป
ภาพดังกล่าวได้เป็นที่พูดถึงเป็นอย่างเป็นกำลังในหมู่แฟนบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถึงความใจกล้าของแฟนหงส์แดงคนนี้

 

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล บอล ฟุตบอล โปรแกรมบอล ได้ที่นี่

http://welovefootballclub.blogspot.com/

วิเคราะห์บอล : บีร็อดเซ็ง!มูเปลืองรถบัส2คันขวางทวาร

ฟุตบอล : ร็อดเจอร์ส สุดเซ็ง เหน็บ มูรินโญ่ ซ้อนรถบัส 2 คัน ตั้งใจมาเเพื่ออุดอย่างเดียว ยอมรับโชคไม่ดี พยายามแล้ว แต่ขึ้นนำก่อนไม่ได้ ไม่โทษ เจอร์ราร์ด ทำพลาดจนพังคาบ้าน

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมบอล ลิเวอร์พูล จ่าฝูงในเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เหน็บแนม โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเชลซี ที่บุกมาเด็ดชัยได้ถึงถิ่น 2-0 เมื่อ 27 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า เล่นจุกสุดขีดเสมือนใช้รถบัส 2 คันขวางลำเข้าอยู่หน้าปากประตู และยอมรับตักเตือนเสียดายที่ลูกทีมมีครั้งขึ้นนำอย่างเร็วในช่วงต้นเกม แต่ทำไม่ได้ เพราะแยกออกโชคไปเพียงอ่อนน้อย จนข้อยุติออกมาเป็นอย่างที่เห็น

กุนซือประจำถิ่น แอนฟิลด์ กล่าวส่วนหลังไม่สามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยการชนะรวดในลีก 12 เกมว่า  ยินดีด้วยกับ เชลซี พวกเขาชนะ ส่วนเราก็ผ่านพวกเขาไปไม่ได้ พวกเขาตั้งรับกันลึก ผมคิดว่าวันนี้มีรถบัสจอดอยู่ตั้ง 2 คัน! ถ้าคันเดียวยังไม่เป็นไร มันเหมือนพวกเขามีกองหลัง 6 คนกับ มิดฟิลด์ตัวรับ 3 คน กับผู้รักษาประตู ทั้ง 10 คนอยู่หลังบอลตลอด 90 นาที เว้นแต่ว่าเราจะได้ประตูเร็วเพื่อล่อค่ายเขาออกมา ส่วนเขาไม่ได้มาเพื่อชนะอยู่แล้ว แต่มาเพราะว่าเผาเวลา

ทุกคนทุ่มเท ทุกอย่างแล้ว แต่เราแค่ขาดโชคเล็กน้อย ผมไม่คิดว่ามันเป็นแท็คติก ใครก็ทำได้ แค่บอกให้ผู้เล่นตั้งรับที่หน้ากรอบเขตโทษ และนี่เป็นวิธีปกติของ เชลซี อยู่แล้ว พวกเขามีผู้เล่นชั้นยอด เล่นเกมรับดีและรอสวนกลับเร็ว จากความผิดพลาดของเราเอง  ร็อดเจอร์ส อธิบาย

กุนซือ  หงส์แดง  ยังไม่โทษความผิดพลาดของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ลื่นล้ม ทำให้โดน เดมบ้า บาฉกบอลไป โดยกล่าวว่า  เราผิดหวังที่เสียประตูแรก ผมไม่มีอะไรจะว่า สตีวี่ ผมบอกเขาว่า เขายังเป็นผู้เล่นชั้นยอดของสโมสร เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรามายืนอยู่ตรงนี้ได้

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล บอล ฟุตบอล โปรแกรมบอล ได้ที่นี่

http://welovefootballclub.blogspot.com/

วิเคราะห์ผลบอล : สิงห์บลูส์ส่อรอดมิโดนยอมกระบี่แม้ส่งชุดฟักฟุ้นฉะหงส์แดง

 

ฟุตบอล : \'สิงห์บลูส์\' น่าผ่านพ้นตัวไม่โดนฝ่ายจัดฯ พรีเมียร์ลีก ลงดาบ แม้ไม่ส่งชุดเก่งสุดลงดวล \'หงส์แดง\' เหตุพักหลังชักไม่เคร่งครัดหากไม่ทำน่าเขม่นเกินทน แถมมีแววส่ง \'แลมพ์ส\', มิเกล, มาติช และซาล่าห์ ที่วืด ชปล. ลงบู๊อยู่แล้วด้วย
เชลซี ยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นได้จะไม่ถูกลงสิ่งร้ายหากเลือกส่งนักเตะสำรองลงสนามหญ้าแบบยกชุดในนัดดวลบอลกับ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ที่ 27 เม.ย. นี้ แม้จะขัดกับกฎระเบียบที่ระบุว่าทุกพวกจะต้องใช้งานผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามเท่านั้นก็ตาม
ประเภทขัดกับกฎดังกล่าวนั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว โดยเป็น แบล็คพูล เลือกใช้งานผู้สำแดงสำรองพร้อมกับนักเตะเยาวชนหลายรายจนทำให้ถูกสั่งปรับเงินเมื่อ ปี 2011 แต่หลังจากนั้นฝ่ายทำงานแข่งขันก็เริ่มผ่อนปรนมากขึ้น นั่นหมายความว่าหาก สิงห์บลูส์ ไม่ทำน่าเดียดถึงขนาดใช้นักเตะจากชุดชนมพรรษาไม่เกิน 21 ปีล้วนๆ ก็ทรงไว้จะไม่มีบทลงโทษตามมา
ขณะเพียงอย่างเดียวกัน โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมเชลซี ก็น่าจะเลือกใช้งานผู้เล่นหลักๆ บางรายดวลกับ หงส์แดง ด้วยเช่นกันอาทิ แฟร้งค์ แลมพาร์ด และจอห์น โอบี มิเกล ซึ่งจะติดโทษแบนใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบถัดลงมาชนะเลิศ นัดเขต 2 กับ แอตเลติโก มาดริด รวมถึง เนมานย่า มาติช และโมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ซึ่งเกยคัพไท ชปล. ด้วยเช่นกัน

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล โปรแกรมบอล ได้ที่นี่

http://welovefootballclub.blogspot.com/

วิเคราะห์บอล เรอัล มาดริด - บาเยิร์น มิวนิค หญิบนี้มันหยด

วิเคราะห์บอล เรอัล มาดริด - บาเยิร์น มิวนิค

วิเคราะห์บอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ฤดูกาล 2013-14 เวลาเตะ : 01:45 น.
รอบรองชนะเลิศเลิศนัดแรก
วันพุธที่ 23 เมษายน 2557
เรอัล มาดริด - บาเยิร์น มิวนิค
สนาม : ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว
ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1 (ช่อง 681)

ผลงานพิธี 5 นัดส่วนหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
เรอัล มาดริด
17/04/2014 บาร์เซโลน่า 1 - 2 เรอัล มาดริด
13/04/2014 เรอัล มาดริด4 - 0 อัลเมเรีย
09/04/2014 ดอร์ทมุนด์ 2 - 0 เรอัล มาดริด
06/04/2014 โซเซียดาด 0 - 4 เรอัล มาดริด
03/04/2014 เรอัล มาดริด 3 - 0 ดอร์ทมุนด์
บาเยิร์น
19/04/2014 บราวน์ชไวก์ 0 - 2 บาเยิร์น
17/04/2014 บาเยิร์น 5 - 1 ไกเซอร์ฯ
12/04/2014 บาเยิร์น 0 - 3 ดอร์ทมุนด์
10/04/2014 บาเยิร์น 3 - 1แมนฯ ยูไนเต็ด
05/04/2014 เอาก์สบวร์ก 1 - 0 บาเยิร์น
เรอัล มาดริด
เส้นกระแสการลุ้น ลา เดซิม่า หรือแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 10 มาถึงช่วงประธานแล้ว เมื่อ เรอัล มาดริด ต้องมาพบกับแชมป์เก่าอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่งานง่าย เพราะข้างเขายังมีจบลีกให้ต้องเน้นอีก ผิดกับคู่ประกวดประขันที่ได้แชมป์ บุนเดสลีกา ไปเรียบร้อยแล้ว

เกม นี้ข่าวดีของ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็คือการย้อนขนมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกซูเปอร์สตาร์ หายจากอาการบาดเจ็บป่วยหัวเข่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ต้องโชคดุร้ายที่มีข่าวว่า แกเร็ธ เบล ดันป่วย ล่าสุดเจ้าตัวมีลุ้นลงสนามหลังกลับมาซ้อมได้ทันกาล ส่วนในรายของ อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เฆเซ่ โรดริเกวซ และ มาร์เซโล่ บาดเจ็บอยู่ทั้งหมด

ราชัน ชุดขาว จะมาในระบบ 4-3-3 เช่นเดิม โดยผู้รักษาช่องจะใช้ อีเคร์ กาซิยาส เฝ้าเสา กองหลัง 4 คนส่ง ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส และ ฟาบิโอ โกเอนเตรา กองกลางเป็น ชาบี อลอนโซ่, ลูก้า โมดริช และ อิสโก้ แง่มุมกองหน้าส่ง อังเคล ดิ มาเรีย, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม (4-3-3) : อีเคร์ กาซิยาส - ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โกเอนเตรา - ชาบี อลอนโซ่, ลูก้า โมดริช, อิสโก้ - อังเคล ดิ มาเรีย (เบล), คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า
บาเยิร์น มิวนิค
บาเยิร์น มิวนิค พร้อมแล้วที่จะเป็นสโมสรแรกในประวัติศาสตร์ ที่ป้องกันแชมป์รายการนี้ไว้ได้ แต่ในรอบรองชนะเลิศหนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อพวกเขาที่เป็นเต็งหนึ่ง ต้องมาเจอเต็ง 2 อย่าง เรอัล มาดริด ทำให้ต้องเหนื่อยหนักกว่าเดิม แต่ยังดีที่พวกเขาไม่มีโปรแกรมหนักในช่วงนี้

นอก จาก ติอาโก้ อัลคันตาร่า, ดีเอโก้ คอนเต็นโต้ และ เซอร์ดาน ชากิรี่ 3 แข้งที่ได้รับบาเจ็บแล้ว ทัพ เสือใต้ ไม่มีอะไรต้องห่วงมากนัก เพราะได้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ และ ฆาบี มาร์ติเนซ 2 กองกลางที่พ้นโทษแบนกลับมา แถมยังได้ มานูเอล นอยเออร์ กลับมาแล้วด้วย เรียกว่าฟูลทีมเลยทีเดียว

กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนเกมเลกแรกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบที่ผ่านมา โดยจะส่ง ฟิลิปป์ ลาห์ม ลงเป็นมิดฟิลด์คู่กับ ชไวนี่ แล้วใช้ ราฟินญ่า เล่นเป็นแบ็กขวา ส่วนแนวรุกน่าจะเป็น ฟร้องค์ ริเบรี่, อาร์เยน ร็อบเบน และ โธมัส มุลเลอร์ โดยมี มาริโอ มานด์ซูคิช เป็นหน้าเป้า

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - ราฟินญ่า, ดานเต้, เยอโรม บัวเต็ง, ดาบิด อลาบา - ฟิลิปป์ ลาห์ม, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่ - มาริโอ มานด์ซูคิช
ข้อมูลน่าสนใจ
• บาเยิร์น มิวนิค มีสถิติการพบกับ เรอัล มาดริด ที่เก๋หรูมาก โดยทั้งหมด 20 หนพวกเขาชนะได้ถึง 11 เกม
• แต่ถ้านับเฉพาะการเล่นบอลในถิ่น ซานติอาโก เบร์นาเบว เสือใต้ ชนะได้แค่ 2 เกม โดยแพ้ไปถึง 7 เสมอ 1
• ทั้ง 2 ทีม เจอกันในรอบรองชนะเลิศรายการนี้มาแล้ว 5 ครั้ง โดยมีแค่ปี 2000 ที่ เรอัล มาดริด ผ่านเข้ารอบชิงฯ ได้
• 2 หนล่าสุดที่ ราชันชุดขาว เป็นแชมป์รายการนี้ (ฤดูกาล 1999-00 และ 2001-02) พวกเขาควรเจอกับ เสือใต้ ทั้ง 2 หน และสามารถเอาชนะได้ โดยในปี 2000 เอาชนะรอบรองชนะเลิศ ส่วนปี 2002 พวกเขาชนะรอบ 8 ทีมสุดท้าย
• ลอส บลังกอส ไม่แพ้ใครในเรือนมาแล้ว 17 เกมติดต่อกันในฟุตบอลยุโรป ซึ่งครั้งล่าสุดที่พวกเขาพ่ายคายบ้านคือการพบกับ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2011 (แพ้ 0-2) โดยกุนซือคู่แข่งในวันนั้นเป็น โจเซฟ กวาร์ดิโอลา เทรนเนอร์ บาเยิร์นฯ ในปัจจุบัน
• เรอัล มาดริด ตกรอบรองพิชิตเลิศมาแล้ว 3 ปีติดต่อกัน ซึ่ง 2 หนล่าสุดนั้นพ่ายแพ้ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค
• แต่พวกเขาก็ตะครุบแชมป์ฟุตบอลยุโรปจากการเอาชนะเลิศทีมจากเยอรมันในรอบชิงได้ถึง 3 หน แต่ก็ไม่ได้เป็นการพบกับ เสือใต้ (ชนะ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 7-3 ปี 1960, ชนะ โคโลญจน์ สกอร์รวม 5-3 ใน ยูฟ่า คัพ ปี 1986 และชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2-1 เมื่อปี 2002)

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

http://welovefootballclub.blogspot.com/

วิเคราะห์ผลบอล : ปีศาจเนื้อตัวซ้ำ ราชันชุดขาว

 
ปีศาจตัวใหม่

ฟุตบอล : หลายปีที่ผ่านมา เราพยายามที่จะหา คนที่จะมาทับลงรัศมีกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สองปีศาจแห่งวงการลูกหนัง ที่ทำอะไรเกินมนุษย์ มาตลอด ทั้งสถิติการถล่มประตู และ การแหวกแนวรับ

ชื่อของหลาย ๆ คนที่มีท่วงที แต่ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ มีหลายดาวรุ่งที่ผุดขึ้นมาเหมือนจะมีแวว แต่ว่าสุดด้านหลังก็ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ว่า หลังจากจบเกม โกปา เดล เรย์ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ก็เหมือนว่าตอนนี้จะแจ้งชัดแล้วว่า ถ้าจะมีปีศาจตัวใหม่ ต่อจาก เมสซี่ และ โรนัลโด้ คนๆ นั้นก็คงจะต้อง เป็น แกเร็ธ เบล ปีกจรวดชาวเวลส์ ที่ยิ่งเล่นก็ยิ่งเก่งเวอร์

เชื่อว่าตอนประถมพวกที่ คลางแคลงใจ และต่อว่า ราชันชุดขาว กับการทุ่มเงิน 100 ล้านยูโร คว้าตัวเบล มาร่วมกองทหารจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คงจะนุ่มนวลกันไปสูญสิ้นแล้ว โดยเฉพาะประตูโซโล่เดี่ยวสุดมหัศจรรย์ พา เรอัล มาดริด คว้า                                                                                 แชมป์ โกปา เดล เรย์ เหนืออริตลอดกาลอย่างบาร์ซ่า

ปีกวานรเทพกับสปีดในระดับยอดมนุษย์

การที่ พวกเขาทุ่มเงินมหาศาล ขนาดนั้นไม่ใช่แค่การซื้อนักเตะชั้นยอด แต่เป็นการดึงตัว นักเตะที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตำนานคนใหม่ของสโมสร และนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินเลย เมื่อเราพูดถึง เบล ในตอนนี้

ใครจะเชื่อว่า อนาคตของ เจ้าเด็กรุ่นจากเวลส์ คนนี้ มันจะพลิกผันได้ถึงเพียงนี้ จากแบ็กซ้ายดาวรุ่งของ เซาธ์แฮมป์ตัน มาอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่เขากลายเป็นปานตัวอับโชค ลงสนามเมื่อไหร่ ทีมแพ้เท่าที่นั้น แถมเกือบจะโดนขายทิ้งเลยด้วยซ้ำ

 

ความเร็วเหนือมนุษย์ของเบล

จุดเปลี่ยนในชีวิตของ เบล ก็คงจะเป็นการเข้ามาของแฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ เทรนเนอร์มากประสบการณ์ที่เข้ามาคุม สเปอร์ส เมื่อปี 2008 โดย จ่าแฮร์รี่ นี่เอง ที่ ดันเขาขึ้นมาโจ้ปีก และมาเจิดจรัสเต็มตัว ในกาลเวลาของ อังเดร วิลลาส-โบอาส เมื่อฤดูกาลที่แล้ว จนเป็นสาเหตุให้ เรอัล มาดริด ยอม ทุ่มเงินมหาศาล คว้าตัวภูไปร่วมทัพ

 

การย้ายเข้ามาในช่วงต้นของฤดูกาลโดนสื่อรวมถึงแฟนบอลตั้งคำถามว่า ชุดขาวบ้าหรือเปล่า?

ในตอนแรก นั้น เบล โดนกังขาในเรื่องของความเหมาะสมในเรื่องของค่าตัวเป็นอย่างมาก ว่าดีพอสำหรับค่าตัว ที่สูงขนาดนี้หรือไม่ เพราะว่า ตอนมาที่ เรอัล มาดริด สภาพร่างกายเขาก็ยังไม่เต็มร้อย

ยิ่งเมื่อโดนเปรียบเทียบกับ เนย์มาร์ ที่ย้ายมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า ในเวลาเดียวกัน นั้นต้องเรียกว่า เบล เป็นรองแบบสุดกู่ เพราะว่า ในตอนแรก เนย์มาร์ นั้นเริ่มต้น กับ บาร์ซ่า ได้อย่างน่าประทับใจ

 

ถูกสื่อจับมาเปรียบกับเนย์มาร์ในฐานะพระรองของ 2 บิ๊กสโมสรคู่อริ

แต่ว่าตอนนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตร ยิ่งเล่น เบลก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ผิดกับ เนย์มาร์ ยิ่งเล่นก็ยิ่งเจอปัญหา หลายอย่างไม่เป็นใจ ซึ่งตรงนี้ ก็ต้องให้เครดิตกับ ตัวของเบล ด้วย ที่สู้จนพิสูจน์ตัวเองในรั้ว ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ได้

สิ่งหนึ่งที่ พิสูจน์ให้เห็นว่า เบล เป็นของแท้จริง ก็คือ เขาสามารถแบกทีม ยามไร้ สตาร์ตัวหลักอย่าง โรนัลโด้ ได้ อย่างที่ได้เห็นกันว่า ในฤดูกาลนี้ แม้จะมีหลายเกม ที่โรนัลโด้ ไม่ได้ลงสนาม ไม่ว่าจะติดโทษทัณฑ์แบน หรือ อาการบาดเจ็บเล่นงานแบบ เกม โกปา เดล เรย์ พวกเขาก็เอาชนะคู่แข่ง ได้ไม่ต่างฤๅกับตอนที่มี ตัวของ CR7

 

กลายเป็นนักเตะระดับแกนหลักของทีมในช่วงที่ โรนัลโด้ ไม่สามารถลงสนามได้

ในฤดูเพลาแรกของ เบล กับ เรอัล มาดริด ตอนนี้ยิงไปแล้ว 20 ประตู จากการลงสนาม 39 นัด ถือว่าเป็นสถิติที่น่าประทับใจ แถมยังมีแชมป์ติดมือ และดูแล้วมีแต่จะดียิ่งขึ้นกว่านี้ ที่สำคัญ เรอัล มาดริด กำลังอยู่ในเส้นทางการลุ้น ทริปเปิ้ลแชมป์ อีกด้วย

ถึงตอนนี้ก็คงพูดได้อย่างเต็มปากแล้วว่า เบล นั้นได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะคนสำคัญของ เรอัล มาดริด ชนิดที่จะกุดไม่ได้ และในอนาคต ก็ไม่ต้องประหลาดใจอะไร หากเขาจะขึ้นมาอยู่ในระดับเดียว กับ เมสซี่ และ โรนัลโด้

ในฐานะปีศาจตัวใหม่ของวงการ

The Nut

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

http://welovefootballclub.blogspot.com/

วิเคราะห์ผลบอล : เรือจวนจะล่ม!นาสรี่ซัดยืมชีพตีเจ๊าแมวหืด2-2

  

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จัดหนักวาง เซร์คิโอ อเกวโร่ ยืนคู่หน้ากับ อัลบาโร่ เนเกรโด้ แดนกลางไม่มีดาบิด ซิลบา และยาย่า ตูเร่ ใช้ เจมส์ มิลเนอร์ และฆาบี การ์เซีย แทน ฝั่งทีมเยือน ซันเดอร์แลนด์ ส่ง ฟาบิโอ บอรินี่ และอดัม จอห์สัน เป็นแกนนำในแนวรุก กองหน้าวางให้ คอนเนอร์ วิคแฮม ยืนหอก 

ออกสตาร์ทมาได้เพียง 2 นาที เจ้าบ้านได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว จากทางที่ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ตัดบอลจาก ลี แค็ตเทอร์โมล ได้ที่กลางสนาม บอลไปถึง เซร์คิโอ อเกวโร่ กระชากหาเขตโทษ แล้วปาดออกขวาให้ เนเกรโด้ ข้ามหลอก บอลเลยถึง แฟร์นันดินโญ่ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวา หวดยัดเสาแรกเข้าประตูไป 

จากนั้น 4 นาที ซันเดอร์แลนด์ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะลูกฟรีคิกทางฝั่งพามของสนามอดัม จอห์นสันเปิดยาวเข้าไปตรงกลางเขตโทษ จอห์น โอเช โขกได้ ทว่าบอลหลุดโคนเสาแรก ให้กำเนิดหลังไปอย่างน่าเสียดาย

 ผ่านมาถึงนาทีที่ 10 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้หวดจากระยะ 25 หลา บอลพุ่งหาปากประตู วีโต้ มานโนเน่ ต้องออกแรงเซฟ บอลเข้าทาง ปาโบล ซาบาเลต้า จ่ายเดินให้ แฟร์นันดินโญ่ หวดซ้ำ คราวนี้ข้ามคาน 

ก่อนเข้าสู่ 20 นาทีแรก ซันเดอร์แลนด์ ได้ลุ้นทิ้งจังหวะโยนบอลจากถนนหนทางริมเส้นฝั่งขวาเข้าเขตโทษ ฟาบิโอ บอรินี่ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปหวดหักบอลหาเสาสอง ทว่าบอลเลยออกหลังไป 

ก่อนเข้าสู่ช่วงเศษหนึ่งส่วนสองชั่วโมงแรก เวส บราวน์ พุ่งเสียบหนีปุ่มเข้าข้อเท้า เซร์คิโอ อเกวโร่ จนตัวลอย กองหน้าเจ้าถิ่นล้มนอนหลับฟุบจนเกมต้องหยุดไป กรรมาธิการไม่ได้แจกการ์ดเป็นการเตือนหรืออย่างไร อเกวโร่ ลุกขึ้นลงมาเล่นต่อได้ 

ช่วง 5 นาทีสุดท้าย เซร์คิโอ อเกวโร่ พาบอลบุกเข้าทางฝั่งซ้ายของเขตโทษทีมเยือน แล้วโดนแนวรับซันเดอร์แลนด์เบียดล้มลง แต่กรรมการไม่ว่าอะไร จังหวะต่อมา ซามีร์ นาสรี่ จ่ายบอลให้ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ หลุดเข้าไปหวดด้วยซ้ายจากทางฝั่งซ้ายของเขตโทษ แต่บอลข้ามคาน จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ออกนำ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 

ครึ่งหลังกลับมาเตะกันได้เกือบ 10 นาที เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้ง จากโอกาสที่ แฟร์นันดินโญ่ กระแทกฟุตบอลขึ้นหน้าให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ กระชากบุกเข้าทางฝั่งขวาของเขตโทษทีมเยือน แล้วหวดยัดเสาแรก แต่แฉลบบล็อคลี แค็ตเทอร์โมล เด้งไปจะเข้าทางนาสรี่ แต่มีตัวตามมาเคลียร์ได้อีกครั้ง

เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโทงสุดท้าย สเตเฟาน โยเวติช ดาวยิงที่ลงมาริเป็นสำรอง ได้บอลตรงกลางปากประตู หน้าเขตโทษทีมเยือน ตั้งป้อมปั่นด้วยขวา ฟุตบอลพุ่งหาโคนเสาหลักแรก แต่ วีโต้ มานโนเน่ พุ่งไปรับได้ดีที่สุด
ผ่านถึงช่วง 20 นาทีมากท้าย ซันเดอร์แลนด์ ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ รับบอลทางฝั่งพามของเขตผลร้ายทีเจ้าบ้าน เปิดโค้งไปที่เสาสอง คอนเนอร์ วิคแฮม กระโดดแปเข้าประตูไป 

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีท้าย เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ พาบอลจากทางฝั่งซ้ายกระชากเข้าเขตโทษ แล้วเปิดไปที่เสาแรก เอดิน เชโก้ หวดเต็มๆ ทว่าบอลหลุดกรอบออกหลังไป 

กระทั่งนาทีที่ 83 แฟนบอลซันเดอร์แลนด์เฮกันลั่น หลังจากที่ เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ พาบอลโต้ผกผวนเร็วขึ้นมาทางด้านซ้าย แล้วปาดบอลออกขวาให้ คอนเนอร์ วิคแฮม หลุดเข้าทางฝั่งขวาของเขตโทษเจ้าบ้าน แล้วหวดเพื่อขวา บอลแทรกเสาแรกเข้าประตูไปสุดสวย 

จากนั้น 5 นาที แมนฯ ซิตี้ ตามตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ ซามีร์ นาสรี่ ตั้งป้อมปั่นด้วยขวาจากบนเส้นเขตโทษ มานโนเน่ พยายามจับบอล แต่บอลหลุดมือหนีเข้าประตูไป 

ช่วงเวลาที่เหลือหลอ ทั้งสองฟากทำอะไรเพิ่มกันไม่ได้ ครบ 90 นาที แมนฯ ซิตี้ ทำได้พ่างเสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ 2-2 มี 71 คะแนน อยู่อันดับ 3 ของตาราง ตามหลังลิเวอร์พูล 6 แต้ม และเชลซี 4 แต้ม แม้จะแข่งน้อยกว่า 1 นัดก็ตาม ส่วนซันเดอร์แลนด์ ยังรั้งบ๊วยเหมือนเดิม

  รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซองต์ ก็องปานี, มาร์ติน เดมิเคลิส, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - เจมส์ มิลเนอร์, ฆาบี การ์เซีย, แฟร์นันดินโญ่ (แจ็ค ร็อดเวลล์ น.87), ซามีร์ นาสรี่ - เซร์คิโอ อเกวโร่ (สเตฟาน โยเวติช น.57), อัลบาโร่ เนเกรโด้ (เอดิน เชโก้ น.69) สำรองไม่ได้ใช้ : คอสเทล พานทิลิมอน, ไมก้าห์ ริชาร์ดส์, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่

  ซันเดอร์แลนด์ : วีโต้ มานโนเน่ - ซานติอาโก้ เวร์กินี่, จอห์น โอเช, เวส บราวน์, มาร์กอส อลอนโซ่ - ลี แค็ตเทอร์โมล, ฟาบิโอ บอรินี่ (นาโช่ สก็อกโก้ น.69), เซบาสเตียน ลาร์สสัน (เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ น.68), แจ็ค โคลแบ็ค, อดัม จอห์นสัน - คอนเนอร์ วิคแฮม สำรองไม่ได้ใช้ : ออสการ์ อุสตารี่, โจซี่ อัลติดอร์, เอล-ฮัดจิ บา, ชาริส มัฟริอัส, เลียม แอ็กนูว์ (ดูตารางบอล เช็คผลบอล)

ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล โปรแกรมบอล ได้ที่นี่

http://welovefootballclub.blogspot.com/

วิเคราะห์ผลบอล : รอชม!แบล็คมอร์ฟเชื่อ”วิลสัน”จะเป็นดารารุ่งสุดร้อนฤทธิ์แห่งปี+คลิป

ฟุตบอล : เคลย์ตัน แบล็คมอร์ สมัยเก่านักเตะในตำนานของทัพ”ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดหมู่แห่งศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่า ตนเองรับประจักษ์แจ้งได้ว่า เจมส์ วิลสัน นักเตะดาวรุ่งวัย 18 ปี จะย่างก้าวขึ้นมาเป็นดาวรุ่งที่ฮ็อตที่สุดในคราวหน้าอย่างแน่นอน

เจมส์ วิลสัน มีชื่อโผล่อยู่ในตัวเก็บนัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปถล่ม นิวคาสเซิ่ล 4 : 0 ซึ่งก่อนหน้านี้ เคลย์ตัน แบล็คมอร์ ก็ได้ยลลีลาของเจ้าหนูน้อยมหัสจรรย์รายนี้มาหลายนัดเพียงพอสมควรแล้ว และที่สำคัญเคยได้เป็นโค้ชของ วิลสัน เมื่ออายุยัง 15 ปี ซึ่ง แบล็คมอร์ ก็มั่นใจว่า วิลสัน จะต้องก้าวขึ้นมายังทีมชุดโตเร็วๆนี้ และจะโชว์แบบฟอร์มได้อย่างสวยหรู ด้วยความขวับ ความแข็งแกร่ง ร่างกายที่บึกบึน และความสามารถเฉพาะในเกมรุกสูง ทำให้เจ้าตัวจะก้าวขึ้นแท่นนักเตะดาวรุ่งที่ร้อนแรงที่สุดแห่งปีแน่นอน จะอาจจะก้าวขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ของพลพรรคมาห์แดงได้ในเร็ววันนี้ (ดู..โปรแกรมบอลได้ที่นี่..คลิ๊ก)

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล โปรแกรมบอล ได้ที่นี่

http://welovefootballclub.blogspot.com/

ฟุตบอล : พาหะผีกระพือ!ซิวชอว์ล่วงเลยหน้า27ล้านปอนด์

 

ฟุตบอล : ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายตัวชำนาญทีม นักบุญ เซาธ์แฮมป์ตัน ตกเป็นข่าวลือว่าจ่อซบ ปีศาจแดง  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงเวลาซัมเมอร์นี้ ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำแห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวว่าได้บรรลุข้อตกลงคว้าตัว ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายตัวเข้มแข็งทีม นักบุญ เซาธ์แฮมป์ตัน เข้าเสริมทัพในระยะซัมเมอร์นี้ ด้วยคุณค่าตัว 27 ล้านปอนด์ จากการตีข่าวของ Red Issue and United We Stand และ the Red Devils แบ็คซ้ายดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษวัย 18 ปี ทำผลงานได้ดั่งโดดยอดเยี่ยมในซีซั่นนี้ ทำให้มีหลายทีมสนใจดึงตัวไปร่วมทีมไม่ว่าจะเป็น เชลซี,เเมนเชสเตอร์ ซิตี้ เเละ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ล่ามากตกเป็นข่าวคราวกับ ปีศาจแดง แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

http://welovefootballclub.blogspot.com/

วิเคราะห์ผลบอล : บายอร์เบิ้ล!ไก่พลิกโจมตีแมวดำ5-1ขึ้นที่6

 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2013-14 วันจันทร์ที่ 7 เมษายน 2557 ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ส 5-1 ซันเดอร์แลนด์ สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน ถ่ายทอดสด : CTH สเตเดี้ยม 1

ผลบอล นาที 14 แมวดำ ได้ลุ้นเมื่อ อดัม จอห์นสัน เปิดลูกฟรีคิกมาให้ เวส บราวน์ โหม่งบอลหลุดกรอบไปนิดเดียว จากนั้น 3 นาที วลาด ชิริเชส จ่ายบอลพลาดเมื่อจะให้ ยูเนส กาบูล แต่แปรไปเป็นเข้าทาง ลี แค็ตเตอร์โมล กดด้วยขวาจากนอกกรอบระยะ 30 หลาเข้าไป 1:0 นาที 28 สเปอร์ส ตามตีเสมอจนได้ คริสเตียน เอริกเซ่น เปิดเผยบอลพลัดพรากด้านซ้ายไปด้านประตูให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เข้าชาร์จไม่พลาดเป็น 1:1 นาที 59 เจ้าทำเนียบมาได้ทวารขึ้นนำเมื่อ คริสเตียน เอริกเซ่น เปิดบอลจากซ้ายมาหน้าประตูถึง แฮร์รี่ เคน ชาร์จเข้าไป 2:1 นาที 78 เจ้าบ้านมาได้ประตูเพิ่ม 3:1 เมื่อ นาเซอร์ ชาดลี่ จ่ายบอลให้ คริสเตียน เอริกเซ่น ยิงไกลจากนอกกรอบผ่าน วีโต้ มานโนเน่ เข้าประตูไป นาที 86 ประตูที่สี่ของ ไก่เดือยทอง ก็มา แฮร์รี่ เคน ได้โอกาสยิงไปติด วีโต้ มานโนเน่ ก่อนที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ตามซ้ำโล่งๆ ให้ทีมหนีห่าง 4:1 ช่วงท้ายเกม สเปอร์ส มาได้ประตูปิดท้าย ยูเนส กาบูล ดึงขึ้นบอลให้ กิลฟี่ ซิกูร์สสัน ยิงเข้าไปเป็น 5:1 จนจบเกม 90 นาที ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ หยิบยกชนะ แมวดำ ขาด 5:1 คว้าสามแต้มขยับขึ้นที่ 6 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ : ระบบ 4-4-2 ผู้รักษาที่นี่ : ฮูโก้ โยริส กองหลัง : ไคล์ นอตัน, ยูเนส กาบูล, วลาด ชิริเชส, แดนนี่ โรส กองกลาง : อาร่อน เลนน่อน, เปาลินโญ่, นาเซอร์ ชาดลี่, คริสเตียน เอริกเซ่น กองหน้า : แฮร์รี่ เคน, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ซันเดอร์แลนด์ : ระบบ 3-4-1-2 ผู้รักษาประตู : วีโต้ มานโนเน่ กองหลัง : ซานติอาโก้ เวอร์จินี่, เวส บราวน์, คาร์ลอส เซล่า กองกลาง : ฟิล บาร์ดสลี่ย์, เลียม บริดคัตต์, คี ชุง ยอง, มาร์กอส อลอนโซ่ - ลี แค็ตเตอร์โมล กองหน้า : อดัม จอห์นสัน, ฟาบิโอ บอรินี่  

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

http://welovefootballclub.blogspot.com/