วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

นี่เป็นไปได้เป็นตัวบ๊วยของเหล่าเชลซีก็เป็นได้? กับบุรุษที่นามกรว่า ดีเอโก้ ดา ซิลวา คอสต้า



ตัวสุดท้ายคือ ดีเอโก้ ดา ซิลวา คอสต้า



นี่คือจิ๊กซอว์ที่ตามหา! ดีเอโก้ คอสต้า ดาวยิงพันธุ์ดุ ที่เป็นขวัญใจคนใหม่ของเหล่าพลพรรคสาวก ทีมเดอะ บลูส์

ซึ่งถ้าจะวิเคราะห์บอลพูดจาถึงคณะที่ออกสตาร์ทได้ดีที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูเพลา 2014-15 ในช่วง 3 เกมแรก ก่อนกำหนดถึงช่วงพักเบรกทีมชาติ ก็คงต้องจับจ้องไปที่ ทีมสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ซึ่งกำลังนำเป็นจ่าฝูงอยู่ ณ เวลานี้ มี 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัด ยิงได้ 11 ประตู และเสีย 14 ประตู

โดยนี่ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นส่วนเอ้ที่ทำให้ ทีมสิงห์บลูส์ ชิ้นงานเปรี้ยงปร้างนั้น 1 เครดิตก็คงต้องเคลื่อนให้กับเขาคนนี้เลย ดีเอโก้ ดา ซิลวา คอสต้า หรือ ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้าป้ายแดง ซึ่งย้ายถิ่นจาก ตราหมี แอตเลติโก มาดริด มาใช้ชีวาในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อเวลาซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์หรือ 1,760 ล้านบาท พร้อมมูลสัญญา 5 ปี สวมเสื้อเบอร์ 19


ภาพถ่ายของดิเอโก้ คอสต้า ที่อพยพมาครบครันเพื่อนแก๊งค์จากลาลีกา

ซึ่งถ้าไต่ถามว่าทำไมต้องยกเครดิตให้กับ คอสต้า? ก็ต้องลองทำย้อนกลับไปดูทีม เชลซี เมื่อฤดูหนที่แล้ว ถือเอาว่าทีม เชลซี เมื่อปีก่อนสัมผัสเจอกับปมอย่างแรงในการจบสกอร์ของผู้เล่นกองหน้า ไม่ว่าจะทั้งเป็น 1.เฟร์นานโด ตอร์เรส, 2.เดมบา บา และ 3.ซามูเอล เอโต้ ซึ่ง 3 ท่านนี้ยิงรวมกันได้แค่ 19 ประตูเท่านั้นเอง โดยดาวซัลโวอุดมของทีมนั้นกลับเป็นผู้เล่นหุ้นส่วนอย่าง เอแด็น อาซาร์ ที่ 14 ประตู

และแล้ว ในสุดท้ายที่สุดพวกเขาก็หาจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญนี้มาจนได้คือการได้ตัว คอสต้า มานั่นเอง และตอนนี้ก็ตะบันไปแล้ว 4 ตุงจาก 3 เกม โดยประตูแรกในสีเสื้อ ทีมสิงห์บลูส์ ของ คอสต้า นั้นใช้เวลาแค่ 17 นาทีเท่านั้น ซึ่งต่างจากตัว เอล นินโญ่ ลิบลับเลย เนื่องจากต้องใช้เวลาถึง 732 นาที ในการเปิดซิงประตูแรกกับ ทีมเชลซี


ซึ่งเพียงแค่แมตช์แรกของศึกพรีเมียร์ลีกเจ้าตัวก็ทำประตูได้ทันที

ในระยะภายต่อมาถ้าร้องถามว่า คอสต้า เป็นกองหน้าตอบโจทย์ที่ เชลซี ต้องการไหม? คนอื่นไม่รู้คิดยังไงเหมือนกัน แต่ส่วนตัวแล้วขอบอกเลยว่าถูกต้องมาก ซึ่งสาเหตุนั้นก็เป็นเพราะว่า

  1. เป็นผู้เล่นที่มีพละกำลังกำลังมหาศาล 
  2. บุกผ่านๆ ตาชน
  3. ปะทะฟัดเหวี่ยงกับกองหลังคู่แข่งได้ดี
  4. มีความเด็ดขาดแน่วแน่
  5. ดุดัน
  6. ความเฉียบคมในการจบสกอร์ 
  7. ไหวพริบดี
ซึ่งที่น่าควรที่สุดก็คือ 1.ความตุกติก, 2.เล่นแง่, 3.เจ้าเล่ห์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เป็นคนที่กวนใจทีนนนน นั่นแหละ อันนี้ชอบมากจริงๆ ชอบมาตั้งแต่ซีซั่นที่แล้วตอนอยู่กับทีม แอตฯ มาดริด ซึ่ง คอสต้า มักจะมีปัญหากับ เปเป้ และ เซร์คิโอ รามอส อยู่บ่อยครั้งตอนเจอกัน ทั้ง 3 คนที่มักจะเล่นผิดกติกาใส่กันบ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็น 
  • ถุยน้ำลายใส่
  • ซุกซ่อนเจาะยางช่วงได้ลุ้นจากลูกเตะมุม
  • ผลักหัวผลักหน้าอกหาเรื่อง และอีกมากมาย 
พร้อมด้วยบางทีก็หนักข้อจนเกือบทำให้เขาทั้งหลายต้องสวมบทบาทนักมวยกันเลยทีเดียว



ซึ่งยกเว้นการทำประตูยังสะเด่าแล้ว เรื่องการดูดทีนก็เป็นอีกอย่างที่คอสต้าเด่นมาตลอด

และถ้าก่อเกิดจะพูดว่า คอสต้า เพิ่งมาแจ้งเกิดได้กับทาง ทีมตราหมี เมื่อฤดูกาลที่แล้วเอง  นั่นก็อาจหาญจะจริงนะ ก็เพราะว่าก่อนหน้านั้นเขาต้องตกเป็นตัวสำรองของ ราดาเมล ฟัลเกา และ เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน

เพียงแต่ถ้าลองย้อนกลับไปไล่แกะรอยดูจริงๆ คอสต้า นั้นหลักแหลมมาตั้งนานแล้วนะ เวลาได้รับโอกาสลงสนามก็จะยิงประตูได้ตลอด และก็เนรมิตปัญหาในกับถนนรับคู่แข่งได้มากเลย ตอนปี 2010 ที่ กุน ยังอยู่ คอสต้า ยิงได้ 8 ประตูจาก 39 เกมรวบยอดทุกรายการ ส่วนตอนที่เป็นสำรองของ ฟัลเกา เมื่อ 2 ปีก่อน พี่แกยิงได้ 20 ประตูจาก 44 เกมรวมทุกรายการ

ซึ่งก่อนที่จะมารับบทกองหน้าตัวจริงตัวประธานเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยระเบิดตาข่ายไปถึง 36 ตุงจาก 52 เกมรวมทุกรายการ ซึ่งก็ได้เห็นแล้วว่านักเตะรายนี้นั้นมีฝีเท้าที่จัดจ้านขนาดไหน ความจุเป็นแค่สำรองยังลั่นไกได้เป็นกอบเป็นกำเลย

และถ้าให้ลองเปรียบเทียบระหว่าง คอสต้า กับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา จะมองว่าทั้งคู่นั้นมีความคล้ายคลึงกันสูงเลย ทั้ง 1.ความเฉียบคม, 2.พละกำลัง, 3.ความถึก และ 4.ความตุกติกเจ้าเล่ห์ และแน่นอนว่าเขานั้นเหมาะสมกับการเล่นร่วมกับ ทีมเชลซี มากๆ หลังจากได้ประจวบบทพิสูจน์แล้วใน 3 นัดแรกของฤดูกาล


นั่นมีชีวิตการดีที่ดร็อกบายอมเป็นสำรองของคอสต้าทำให้เชลซีปึ้กสุดๆ

โดยที่ส่วนตัวแล้วนี่แหละครับ! จิ๊กซอว์ ที่หายป่วยไปของทาง เชลซี พวกเขามีกองหน้าตัวเป้าแบบนี้ และหากโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาจะเป็นภายภาคหน้าและนิทานแห่งรั้ว สแตมฟอร์ม บริดจ์ อย่างแน่นอน

รายการประวัติของ คอสต้า
  • ชื่อเต็ม : ดีเอโก้ คอสต้า
  • เกิดวันที่ : 7 ตุลาคม ปี 1988 
  • อายุ : 25 ปี 
  • สถานทีเกิด : เลการ์โต้ ประเทศ บราซิล
  • ส่วนสูง : 1.88 เมตรหรือ 6 ฟุต 2 นิ้ว
  • ตำแหน่ง : กองหน้า
  • สโมสรช่วงเยาวชน : บาร์เซโลน่า อีซี
สำหรับการเปิดตัวต้นภารกิจค้าแข้งกับทีม บราก้า ปี 2004 จากนั้นก็เขยิบมาอยู่กับทีม แอตเลติโก มาดริด ในปี 2007 แต่ก็ถูกปลดเปลื้องออกไปเก็บความเชี่ยวชาญกับ ทีมบราก้า, ทีมเซลต้า บีโก้ และ ทีมอัลบาเซเต้ และก็ได้ย้ายไปอยู่กับ ทีมเรอัล บายาโดลิด ในปี 2009 ก่อนจะย้ายกลับมาอยู่กับ ทีมตราหมี อีกครั้งในปี 2010 โดยตลอดช่วงอาชีพค้าแข้งยิงไปแล้วทั้งสิ้น 107 ประตูจาก 281 เกม ติดพวกชาติ บราซิล 2 นัด และ ทีมชาติ สเปน 5 นัด


ข่าว!! โบลต์บอกกล่าวบอกให้กนิษฐาโอ้ให้คัมแบ็กอังกฤษเอง



ล่าสุด โบลต์ ได้ไขปากบอกเอง ให้ เจ้าเกรียนโอ้ คัมแบ็กแดนผู้ดี หลังชิ่ง ทีมปีศาจแดง-ดำ ซบตัก ทีมหงส์แดง

จริงหรือไม่? ที่ยูเซน โบลต์ หัวนักวิ่งเจ้าแห่งลมกรดสายฟ้าชาวจาไมก้า ได้เผยว่า เขานั้นเป็นคนเปิดปากบอกให้ มาริโอ บาโลเตลลี่ ดาวยิงจอมเกรียนชาวอิตาเลี่ยน ย้ายผวนมาค้าแข้งยังแดนผู้ดีอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ เจ้าเกรียนโอ้ ได้ย้ายจากทีม เอซี มิลาน ทีมใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มาอยู่กับ พวกลิเวอร์พูล สโมสรชั้นนำแห่งศึก โปรแกรมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์หรือ 880 ล้านบาท เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

หลังจากที่ยอดนักวิ่งเท้าไฟจาก จาไมก้า ซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์ว่า เราสองคนได้คุยกันในวันหนึ่ง และผมก็ได้บอกเขาว่า อังกฤษ คือที่ๆ ดีที่สุดสำหรับการเล่นฟุตบอล ซึ่งเวลาเขาทำผิดพลาดในการเจอกับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมเห็นว่าทุกคนนั้นคงจะมีความสุขดีนะ!

และพร้อมกันนี้ตัว โบลต์ ยังเชื่อว่า หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือใหญ่ ทีมปีศาจแดง จำต้องต้องใช้เวลาในการปรับตัวและสร้างทีม หลังออกสตาร์ทฤดูกาล 2014-15 ได้อย่างน่าผิดหวัง โดยระบุว่า เรื่องนี้มันเป็นเรื่องยากที่ทีมจะปรับตัวเข้ากับระบบแผนใหม่ได้ แต่เวลานั้นคือทั้งหมดที่จะทำให้อะไรๆ มันประเสริฐขึ้นทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องกลับมาอยู่ในหมวดท็อปโฟร์ให้ได้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ แต่พวกเขาจะต้องกลับไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ ซึ่งหลังจากนั้นในฤดูกาลหน้าเราก็จะมีอำนาจที่เจ๋งพอที่จะคว้าแชมป์ลีกได้



คงไม่เสร็จสิ้นง่ายๆ ขนองหนูแจ็คโต้เจมี่! ว่า อย่ามาสอนเรื่องฟอร์มการเล่น


สุดจะแรง ! ภายหลังที่ วิลเชียร์ จวกกลับ เจมี่ หลังถูกติเตียนเรื่องฟอร์มการเล่นไม่เพิ่มปริมาณ หลังพ้นโรคเดี้ยงโดยสวนตอบคืนว่าไม่ต้องการคนที่ป่วยไข้บ่อยเหมือนกัน กาลสมัยเป็นนักเตะมาสั่งสอนในเรื่องนี้

หลังจากที่ แจ็ค วิลเชียร์ มิดฟิลด์ศักดาหนุ่มของ ทีมอาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่แห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โต้ตอบคำวิจารณ์ของ เจมี่ เร้ดแน็ปป์ อดีตมิดฟิลด์หน้าหล่อของ ลิเวอร์พูล ที่ออกมาตำหนิเรื่องแบบฟอร์มการเล่นที่ไม่พัฒนาขึ้น หลังพ้นปัญหาบาดเจ็บตามรุมเร้า โดยดาวเตะ ทีมปืนใหญ่ สวนกลับแบบเจ็บแสบว่าตนเองก็ไม่ต้องการคนที่เดี้ยงพอๆ กัน มาสอนเรื่องวิธีการเล่น

ซึ่งก่อนหน้านี้ เร้ดแน็ปป์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นกูรูวิจารณ์เกมลูกหนังให้กับสื่อ สกาย สปอร์ต สถานีกีฬาแดน เมืองผู้ดี ตำหนิฟอร์มการเล่นของ แจ็ค ว่า ไม่ได้ยกระดับเกมให้ดีขึ้น ในช่วงระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา และก็ยังไม่เห็นว่า วิลเชียร์ จะมีพัฒนาการอะไรมากมาย ดังนั้นคิดว่านักเตะรายนี้คงเอาอาการบาดเจ็บมาอ้างไม่ได้อีก

และจากคำตำหนิดังกล่าว ส่งผลให้มิดฟิลด์ทัพ ทีมปืนใหญ่ ออกมาโต้ตอบว่า นั่นมันเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนที่อยู่ในโทรทัศน์ และเอื้อนว่า 'ควรจะทำแบบนี้ หรือ ควรจะทำแบบนั้น' แต่ถ้าคุณมองย้อนกลับไป เจมี่ ก็เคยได้รับบาดเจ็บพอๆ กับผมแหละ บางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนั้นผมไม่ต้องการคนที่อยู่ในทีวีมาสอนผมว่าจะต้องเล่นยังไง



ตัวของชากิรี่ ยันทีมหงส์จีบจริงแต่พี่เสือกันท่า


ซึ่งทาง ชากิรี่ ได้เปรยว่า ถูกทีมหงส์ ทาบทามก่อนเริ่มศึก เวิลด์ คัพ 2014 ซึ่งตนก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรแต่เป็นทางบอร์ด บาเยิร์น ที่เลือกปัดข้อเสนอทันควัน โดยยืนยันว่าจะไม่ทำการค้าตนไปที่ไหนเด็ดขาด

หลังจากที่ เซอร์ดาน ชากิรี่ ปีกร่างบึ้กของ ทีมบาเยิร์น มิวนิค ทีมมหาอำนาจแห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน เอ่ยปากให้สัมภาษณ์รำลึกถึงความหลัง โดยยืนยันอย่างชัดเจนว่าทีม ลิเวอร์พูล ได้มีการยื่นข้อเสนอเข้าทาบทามตนอย่างเป็นทางการเข้ามาในช่วงเปิดตลาด ซัมเมอร์ครั้งล่าสุด แต่บอร์ดบริหารของทัพ ทีมเสือใต้ ก็เลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวอย่างไร้เยื่อใย อย่างไรก็ตาม ตนจะขอประมาณสถานการณ์ของตัวเองอีกครั้งในขณะเดือน มกราคม ที่จะมาถึงนี้ ว่าจะเลือกเก็บข้าวของย้ายรังเสียทีหรือไม่

เมื่อดาวเตะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทีมลิเวอร์พูล ได้ยื่นข้อเสนอขอซื้อผมก่อนเริ่มศึก เวิลด์ คัพ 2014 แต่ ทีมบาเยิร์น ก็ทุบโต๊ะขวางและบอกกับผมว่าพวกเขาจะไม่มีทางขายผมออกไปแน่นอน สัญญาของผมตอนนี้ยังมีถึงปี 2016 และมันก็มีความเป็นไปได้ที่ผมจะขยายสัญญาออกไปอีก อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมันต้องมีขั้นมีห้วง และผมจะประเมินสถานการณ์ของตัวเองอีกครั้งในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวนี้

และนอกจากนี้ ชากิรี่ ยังไม่ลืมที่จะพูดถึงตารางบอลเกมรอบคัดเลือกศึก ยูโร 2016 ที่ทัพ ทีมนาฬิกา จะพบกับ อังกฤษ ในคืนวันนิศากรที่จะถึงนี้ 8 กันยายน เช่นกัน โดยได้กล่าวว่า สำหรับผม ผมคิดว่ามันจะมีผู้สำแดงดาวรุ่งหลายๆ คนของ อังกฤษ ที่หมู่เราหลายๆ คนไม่คุ้นชินได้ยินชื่อมาก่อน ได้รับโอกาสลงสนาม พวกเขาต้องการที่จะแก้ตัวจากการที่ทำงานได้น่าผิดหวังในศึก เวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย แต่เราจะเล่นไปตามเกมของเราปกติ กับมองถึงการคว้าชัยชนะในบ้านตัวเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น